ไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การทำปุ๋ยหมักใช้เองเพื่อลดต้นทุน

ปุ๋ยแพงแต่ก็ต้องใช้แล้วจะทำยังไงกันดี



           ในการปลูกพืชต่างๆทุกคนคงหลีกเลี่ยงการให้ปุ๋ยแก่พืชที่เราปลูกไม่ได้แต่จะดีกว่าหรือเปล่าหากเราสามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยที่จะนำมาใช้ด้วยการทำเองแบบง่ายๆไม่ยุ่งยาก
วิธีการทำก็แสนง่ายดังรายระเอียดดังต่อไปนี้

1. การเตรียมสถานที่ 


           บริเวณที่จะตั้งกองปุ๋ยควรเป็นที่ๆ น้ำไม่ ท่วม แต่ก็อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ ที่จะนำมาใช้รดกองปุ๋ยพอสมควร และควรเป็นบริเวณ ที่สามารถขนย้ายเศษพืชมาใช้หมักได้ง่าย รวมทั้งเอาปุ๋ยที่หมักเสร็จแล้วไปใช้ได้สะดวก บริเวณที่จะกองปุ๋ยหมักให้ปรับให้เรียบไม่เป็นแอ่งให้น้ำขังได้


2. วัสดุที่ใช้


           - เศษพืช


           - มูลสัตว์


           - ปุ๋ยยูเรีย หรือปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต




3. การตั้งกอง

       
           นำเศษวัสดุมากองบนพื้นดิน ขนาดของกอง กว้าง 2.5 เมตร สูง 1.2 เมตร ยาว 4 เมตร ถ้าต้องการหมักเศษพืชจำนวนมากกว่านี้ ก็อาจตั้งกองปุ๋ยให้ยาวขึ้น หรือตั้งเป็นกองใหม่อีกกองหนึ่ง การตั้งกองจะทำ เป็นชั้นๆ ระหว่างเศษพืชปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมี ดังนี้

           (1) ชั้นล่างสุด กองเศษพืชลงไปในขอบเขตกว้างยาวที่กำหนดไว้ กองให้สูงพอประมาณ กะว่าหลังจากรดน้ำแล้ว กองเศษพืชจะ หนาประมาณ 6-8 นิ้ว.

           (2) โรยมูลสัตว์ลงบนเศษพืชให้ทั่ว ใช้มูลสัตว์ประมาณ 1 บุ้งกี๋ ต่อ พื้นที่ 1-2 ตารางเมตร (ใช้มูลสัตว์ประมาณ 5-10 บุ้งกี๋ต่อชั้น)คลุกเคล้าให้มูลสัตว์ผสมเข้าไปในเศษพืช

           (3) รดน้ำให้ทั่ว ถ้าเศษพืชที่นำมากองเป็นเศษพืชแห้ง ไม่ค่อยเปียกน้ำ ต้องรดน้ำให้โชก เพื่อให้เศษพืชเปียกโดยทั่วถึงกัน แต่ถ้าเป็นเศษพืชสด ก็รดน้ำแค่พอให้เศษพืชเปียกชื้น

           (4) หว่านปุ๋ยเคมี
               - ถ้าใช้ปุ๋ยยูเรียให้ใช้ปุ๋ยประมาณ 1.5-2 กิโลกรัมต่อชั้น
               - ถ้าใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต ให้ไช้ปุ๋ยประมาณ 3-4 กก. ต่อชั้น

           (5) เริ่มต้นกองเศษพืชในชั้นที่ 2 โดยวิธีเดียวกันกับในชั้นที่ 1 คือ
               - กองเศษพืช
               - โรยมูลสัตว์
               - รดน้ำ จนเศษพืชเปียกชื้นโดยทั่วถึงกัน
               - หว่านปุ๋ยเคมี

           กองเศษพืชเป็นชั้นๆ เช่นนี้เรื่อยไป จนกระทั่งได้กอง ปุ๋ยสูงตามขนาดที่ต้องการคือ 1.20 เมตร ซึ่งจะมีจำนวนชั้นของ กองเศษพืชประมาณ 6-8 ชั้น ในชั้นสุดท้ายหลังจากโรยปุ๋ยเคมี แล้ว ต้องรดน้ำตาม เพื่อให้ปุ๋ยเคมีละลายเข้าไปในกองปุ๋ย

4. การปฏิบัติดูแล


           - รดน้ำ หมั่นตรวจตราคอยรดน้ำกองปุ๋ยอยู่เสมอ อย่าให้กองปุ๋ย แห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 วัน หลังจากเริ่มตั้งกอง เศษพืชบางส่วนอาจจะยังค่อนข้างแห้ง อาจต้องรดน้ำให้เศษพืชเปียกชื้นอย่างทั่วถึงกัน เสียก่อน จากนั้น จึงค่อยตรวจตราเป็นระยะๆ แต่ก็ต้องระวังอย่ารดน้ำจนแฉะ เกินไป

           - การกลับกองปุ๋ย หลังจากตั้งกองปุ๋ยหมักแล้ว ต้องทำการกลับ กองปุ๋ยหมักอยู่เสมอ ยิ่งกลับกองบ่อยครั้งจะยิ่งเร่งให้เศษพืชแปรสภาพไปเป็นปุ๋ยหมักได้เร็วขึ้น อย่างน้อยที่สุดควรได้กลับกองปุ๋ยสัก 3-4 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อ ประมาณ 10 วัน หลังจากเริ่มตั้งกองปุ๋ย ครั้งที่สองก็ประมาณ 15 วัน หลังจาก กลับกองครั้งแรก ต่อไปก็กลับกองทุกๆ 20 วัน จนเศษพืชแปรสภาพไปเป็น ปุ๋ยหมักทั้งกอง

           - ถ้าฝนตกชุก ต้องระวังอย่าให้กองปุ๋ยเปียกแฉะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเศษพืชย่อยสลายไปมากแล้ว ควรพูนด้านบนของกองให้ไค้งนูนและหา วัสดุคลุมไว้บ้าง ไม่ให้น้ำฝนไหลเข้าในกองปุ๋ยมากเกินไป

5. การเก็บรักษา


           หลังจากหมักเศษพืชไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้ว ความร้อนภายในกองปุ๋ยจะค่อยๆ ลดลง เศษพืชก็เปื่อยยุ่ย สีคล้ำขึ้น เรื่อยๆ จนในที่สุดกองปุ๋ยก็เย็นตัวลง เศษพืชก็แปรสภาพไป กลายเป็นปุ๋ยหมัก ที่มีเนื้อปุ๋ยร่วนๆ เป็นขุย ยุ่ย นุ่มมือ สีน้ำตาลเข้ม ไม่มีกลิ่นเหม็น ระยะเวลาตั้งแต่ เริ่มตั้งกองจนถึงระยะที่กองปุ๋ยไม่ร้อนสามารถนำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย นี้ ใช้เวลาประมาณสองเดือนครึ่ง ถึงสามเดือนครึ่งอาจเร็วหรือช้าไปกว่านี้ บ้าง ถ้ายังไม่นำปุ๋ยหมักนี้ไปใช้ทันที ควรเก็บรักษาไว้ไนที่ร่ม มีหลังคากันแดด กันฝนหรือหาวัสดุคลุมไว้ไม่ให้ถูกฝนชะ ควรรักษาให้กองปุ๋ยชื้นและอัดกองปุ๋ย ให้แน่น

           เพียงเท่านี้เราก้อจะได้ปุ๋ยมาใช้เองโดยมีต้นทุนที่น้อยลงกว่าเดิมมากเลยทีเดียวครับ ทำเรื่อยๆก้อจะมีปุ๋ยไว้ใช้ไปตลอดครับผม





ทนัญชัย อริยเกศมงคล
สวนไผ่อริยะ@ระยอง
Line : tapootom
Tel : 086-3572098
https://www.facebook.com/ariyabamboo
http://ไผ่ตงลืมแล้ง.blogspot.com
E-mail : tapoo.tom@gmail.com

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สรรพคุณนานับประการจากไม้ไผ่

 พืชที่มีประโยชน์อย่างนี้มีด้วยหรือ



           ไม้ไผ่ เป็นไม้ที่ขึ้นง่ายและเติบโตเร็ว ขึ้นได้ดีในทุกสภาวะอากาศดำรงอยู่ได้ในพื้นดินทุกชนิด ที่สำคัญคือ ไผ่เป็นพันธุ์ไม้ที่อำนวยประโยชน์หลายประการ ทั้งประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม และเป็นพืชที่ลำต้นกิ่งมีลักษณะแปลกสวยงาม ไผ่เป็นไม้ที่ตายยาก ถ้าไผ่ออกดอกเมื่อใดจึงจะตาย แต่ก็ยากมากและนานมากที่ไผ่จะออกดอก ไม้ไผ่มีประโยชน์มากกับคนเราคนเราสามารถนำไม้ไผ่มาสร้างบ้านที่อยู่อาศัย  และทำเครื่องจักสานอื่นๆอีกมากมายสำหรับไม่ไผ่นั้นใช้ได้ทุกส่วนตั้งแต่ หน่อ ลำต้น ใบ ราก เยื่อไผ่ ขุยไผ่ มีประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจำวัน  ในปัจจุบันเราสามารถนำไม้ไผ่มาจักรสานทำเป็นอาชีพหารายได้ให้แก่ครอบครัว และยังเป็นงานที่เราส่งออกไปขายอยู่นอกประเทศสำหรับคนไทยเราแล้ว งานที่ใช้ฝีมือถือว่าเป็นงานที่ประณีตระเอียดและสวยงามมาก

ประโยชน์ของไม้ไผ่ 

1.  ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ
-   ป้องกันการพังทลายของดินตามริมฝั่ง
-   ช่วยเป็นแนวป้องกันลมพายุ
-   ชะลอความเร็วของกระแสน้ำป่าเมื่อฤดูน้ำหลากกันภาวะน้ำท่วมฉับพลัน
-   ให้ความร่มรื่น
-   ใช้ประดับสวน จัดแต่งเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจในบ้านเรือน

2.  ประโยชน์จากลักษณะทางฟิสิกส์
จากความแข็งแรง ความเหนียว การยืดหด ความโค้งงอ และการสปริงตัว ซึ่งเป็นคุณลักษณะประจำตัวของไม้ไผ่ เราสามารถนำมันมาใช้เป็นวัสดุเสริมในงานคอนกรีต และเป็นส่วนต่างๆ ของการสร้างที่อยู่อาศัยแบบประหยัดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

3.  ประโยชน์จากลักษณะทางเคมีของไม้ไผ่
- เนื้อไผ่ใช้บดเป็นเยื่อกระดาษ
- เส้นไยใช้ทำไหมเทียม
- เนื้อไผ่บางชนิดสามารถสกัดทำยารักษาโรคได้
- ใช้ในงานอุตสาหกรรมนานาชนิด

4  การใช้ไม้ไผ่ในผลิตภัณฑ์หัตถกรรม และอุสาหกรรม  แบ่งออกได้   ดังนี้        ผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานจากเส้นตอก ได้แก่ กระจาด  กระบุง  กระด้ง  กระเช้าผลไม้  ตะกร้าจ่ายตลาด  ชะลอม  ตะกร้าใส่ขยะ  กระเป๋าถือสตรี   เข่งใส่ขยะ  เครื่องมือจับสัตว์น้ำ เช่น ข้องใส่ปลา  ลอบ  ไซ ฯลฯ
ผลิตภัณฑ์จากลำต้น และกิ่งของไม้ไผ่  ได้แก่  เก้าอี้  โต๊ะ  ชั้นวางหนังสือ  ทำด้ามไม้กวาด ไม้เท้า คันเบ็ด ราวตากผ้า โครงสร้างบ้านส่วนต่างๆ ทำแคร่ นั่งร้านก่อสร้าง  ท่อส่งน้ำ    รางน้ำ
ผลิตภัณฑ์จากเนื้อไม้ไผ่ ได้แก่  ถาดใส่ขนม   ทัพพีไม้    ตะเกียบ    ไม้เสียบอาหาร
 กรอบรูป  ไม้ก้านธูป ไม้พาย ไม้เกาหลัง เครื่องดนตรี พื้นบ้าน ไม้บรรทัด
        ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากไผ่ซีกได้แก่  โครงโคมกระดาษ   โครงพัด  โครงร่ม  ลูกระนาด
 คันธนู  พื้นม้านั่ง  แผงตากปลา  สุ่มปลา  สุ่มไก่

5. ประโยชน์ทางด้านการบริโภค เช่น การนำหน่อไม้ไผ่มาทำเป็นอาหาร ไม่ว่าจะเป็นซุบ แกง ต้ม หรือนำมาดองจิ้มน้ำพริก


สรรพคุณของหน่อไม้



     * ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ป้องกันอาการท้องผูก ช่วยย่อยอาหาร เป็นสรรพคุณที่เห็นผลมาก เพราะหน่อไม้เป็นอาหารที่ให้เส้นใยสูงจึงช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ เมื่อหน่อไม้ผ่านการย่อยร่างกายจะดูดซึมสารอหารเข้าสู่กระแสเลือด ส่วนกากอาหารที่เหลือหรือสารพิษต่างๆ เช่น ยาฆ่าแมลงหรือโลหะหนักจะไปรวมกันที่ลำไส้ใหญ่ แต่ถ้ามีกากใยอาหารมากๆ กากใยอาหารเหล่านี้จะช่วยดูดน้ำและเพิ่มปริมาณ ทำให้กากอาหารมีน้ำหนักมากจะเคลื่อนออกสู่โลกภายนอกได้เร็ว กากใยอาหารจึงช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

     * แก้กระหาย ขับปัสสาวะ ละลายเสมหะ แก้ไอ บำรุงกำลังแก้อาการร้อนต่างๆ ได้ดี เพราะมีฤทธิ์เย็นเช่นเดียวกับเห็ด

     * ขับพิษใต้ผิวหนัง ขับผื่นหัดรวมถึงผื่นชนิดอื่นๆ เพียงดื่มน้ำแกงที่ได้จากการต้มหน่อไม้ร่วมกับปลาตะเพียน

     * แก้โรคบิดเรื้อรังได้

      นอกจากหน่อไม้สดจะมีคุณค่าทางอาหารสูงแล้ว ตัวหน่อไม้ดองเองแม้จะไม่มีคุณค่าทางอาหาร แต่ยังมีคุณค่าแฝงอยู่อีกคือ จะมีแบคทีเรียในหน่อไม้ดองที่ชื่อ คลอสทริเดีย เป็นแบคทีเรียที่ปนอยู่ในดิน เจริญเติบโตได้ดีในสภาวะไร้ออกซิเจน เช่น ในอาหารจำพวกของหมักดองทั้งหลายและรวมทั้งอาหารกระป๋องที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการทำลายแบคทีเรียอย่างถูกวิธี แบคทีเรียชนิดนี้มีพิษแต่มันก็มีประโยชน์ ซึ่งสำนักงานอาหารและยา หรือ FDA ของสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้นำแบคทีเรียนี้ไปผ่านกระบวนการแยกเอาสารพิษออกแล้วทำให้เจือจาง เพื่อนำไปใช้ในการบำบัดรักษาโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ โดยตั้งชื่อใหม่ว่า โบท็อก (Botox) (ซึ่งโบท็อกก็คือสารหน้าเด้งที่พวกดาราทั้งหลายไปฉีดเพื่อลดรอยเหี่ยวและย่นนั้นล่ะค่า)


ข้อควรระวังในการรับประทานหน่อไม้

     หน่อไม้มีคุณค่าทางอาหารสูงในตัวของมันเอง ส่วนหน่อไม้ดองก็มีคุณค่าแฝง แต่สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคบางชนิดแล้ว แพทย์เองก็ไม่แนะนำให้ทานเหมือนกัน

     ผู้ป่วยเป็นโรคเกาต์ ไม่ควรรับประทาน เพราะในหน่อไม้มีสารพิวรินสูง ซึ่งสารตัวนี้อาจจะทำให้กรดยูริกที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเกาต์สูงขึ้น ซึ่งกรดยูริกเป็นสารที่เกิดจากการเผาผลาญของพิวรีน มีมากในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ถั่วต่างๆ และพืชผักอ่อนโดยเฉพาะหน่อไม้

     ผู้ที่มีภาวะไตเสื่อม โดยปกติกรดยูริกจะถูกขับออกทางปัสสาวะของคนเรา หากร่างกายมีการสร้างกรดยูริกมากเกินไปหรือไตขับยูริกได้น้อยลง เนื่องจากไตเสื่อมลง กรดยูริกก็จะตกผลึกตามข้อ ผนังหลอดเลือด ไต และอวัยวะต่างๆทำให้เกิดอาการปวดข้อและโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้ เช่น ข้อพิการ นิ่วในไต กระดูกพรุน เป็นต้น



ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับหน่อไม้

      * คนไทยเรามักจะคิดว่าหน่อไม้มีแต่โทษเป็นของแสลง ถ้าไม่กินจะดีกว่า

      * กินหน่อไม้แล้วปวดข้อ จริงๆ แล้วตัวหน่อไม้เองนั้นไม่ได้ทำให้ข้อเสื่อมหรือปวดข้อ แต่จะมีผลกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์เท่านั้น ดังนั้นคนที่มีอาการปวดข้อจากสาเหตุอื่นๆ จึงกินหน่อไม้ได้ปกติ

      * คนเป็นเบาหวานห้ามกิน การกินหน่อไม้นั้นไม่ได้มีผลกับระดับน้ำตาลในกระแสเลือด เพราะฉะนั้นแม้เป็นเบาหวานก็รับประทานได้

      * ผู้ป่วยเป็นโรคตับห้ามรับประมาน ซึ่งโรคตับในที่นี้มีได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากไวรัสบีและอาการตับแข็ง แต่แพทย์ยืนยันว่าการรับประทานหน่อไม้ไม่มีผลต่อโรคดังกล่าว

      * เมื่อมีอาการตกขาวหรือระดูขาวให้งดกินหน่อไม้ จริงแล้วหน่อไม้หน่อไม้สดไม่มีผลกับอาการ แต่หากผู้ที่มีอาการตกขาวก็ยังสามารถรับประทานหน่อไม้สดได้

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรจะกินอย่างพอดี ของทุกอย่างมี 2 ด้าน หน่อไม้ก็เหมือนกัน
ผมหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้หลายๆท่านได้รู้ถึงสรรพคุณของไผ่ขึ้นอีกไม่มากก้อน้อยครับผม




ทนัญชัย อริยเกศมงคล
สวนไผ่อริยะ@ระยอง
Line : tapootom
Tel : 086-3572098
https://www.facebook.com/ariyabamboo
http://ไผ่ตงลืมแล้ง.blogspot.com
E-mail : tapoo.tom@gmail.com

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไผ่ตงลืมแล้ง...ไผ่เงินล้านหากปลูกเป็น...


การปลูกไผ่ตงลืมแล้งเป็นอาชีพเสริมที่ดี 

         สำหรับผู้ที่มีเงินทุนแต่มีเวลาไม่มาก เพราะสามารถปลูกทิ้งได้ และต้นทุนไม่สูงถ้าสามารถรอเพาะพันธุ์ต้นอ่อนเองได้ และตลาดยังต้องการหน่อไผ่ตงลืมแล้งอยู่มาก เพราะรสชาติอร่อย ผู้บริโภคนิยมซื้อรับประทานมากกว่าหน่อไม้ชนิดอื่น และสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการตัดหน่อขายก็สามารถทำในลักษณะเพาะพันธุ์ไผ่ตงลืมแล้ง ขายได้ จากเงิน 40-65 บาทที่เสียไปกับต้นไผ่ตงลืมแล้ง 1 ต้น สามารถทำกำไรให้ผู้เพาะพันธุ์ไผ่ตงลืมแล้งได้ถึง 100 เท่า และการปลูกไผ่ตงลืมแล้งนี้ถือเป็นการลงทุนระยะสั้น เพราะในเวลาไม่ถึงปีท่านก็สามารถเก็บหน่อขายได้แล้ว




ไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ @ระยอง
ไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ @ระยอง


รู้จักกับไผ่ตงลืมแล้ง


           ไผ่ตงลืมแล้ง แต่เดิมเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศจีน เป็นไผ่ที่โตเร็วดูแลง่ายพอ ๆ กับพืชจำพวกยูคาลิปตัส ปลูกเพียง 6-8 เดือนก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ ไผ่ตงลืมแล้งเป็นไผ่กอใหญ่ หน่อมีขนาดใหญ่ ลำต้นอวบสูงถึง 25 เมตร ลำต้นมีสีเขียวเข้ม เติบโตได้กับทุกสภาพอากาศและดินทุกประเภท โตเร็วมา 6-8 เดือนก็สามารถเก็บหน่อไปขายได้แล้ว หน่อของไผ่ตงลืมแล้งมีรสชาติหวานกรอบอร่อย โดยส่วนมากนิยมเก็บหน่อขายมากกว่าทำประโยชน์อย่างอื่น หน่อที่เหมาะสมกับการเก็บขายต้องมีขนาดไม่เกิน 40 เซนติเมตร ไผ่ตงลืมแล้งนี้ไม่มีหนามและขนแข็ง ๆ จึงเก็บง่าย



ประโยชน์จากการปลูกไผ่ตงลืมแล้ง


           ประโยชน์ของการปลูกไผ่ในเนื้อลำต้นหนา เยื่อสีขาวในข้อปล้องหนา จึงเหมาะที่จะนำไปทำข้าวหลามได้ดีมาก ลำต้นยังแปรรูปทำเฟอร์นิเจอร์ และใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกมากมายหน่อ มีขนาดใหญ่ น้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 4-5 กิโลกรัม ต่อ 1 หน่อ ปัจจุบันมีผู้ปลูกเก็บหน่อขายในช่วงฤดูกาลที่แทงหน่อตามธรรมชาติมีราคาอยู่ระหว่าง กิโลกรัมละ 20-40 บาท หากเป็นหน่อที่แทงขึ้นในช่วงฤดูแล้งจะมีราคาอีกระดับหนึ่ง


กอไผ่ตงลืมแล้งที่สวนไผ่อริยะปลูก
กอไผ่ตงลืมแล้งที่สวนไผ่อริยะปลูก

           รสชาติของหน่อจะออกหวานกรอบเจือขมและขื่นเล็กน้อย นิยมเอาไปปรุงเป็นอาหารหลากหลายรูปแบบ เช่น แกงจืด และแกงหน่อไม้ โดยก่อนปรุงเป็นอาหารต้องต้มกับน้ำเดือดเทน้ำทิ้งครั้งเดียวจะมีรสชาติหวานกรอบอร่อยมาก

           นอกจากนี้ไผ่ยังสามารถยึดดินไม่ให้พังทลายโดยง่าย และไผ่เป็นพืชที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่น จึงมีศักยภาพสูงในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และกักเก็บคาร์บอนไว้ในรูปของเนื้อไม้ ด้านชีวมวล 2-5 % ต่อปี ในขณะที่ป่าไผ่มีชีวมวลมีศักยภาพเพิ่มขึ้นถึง 30 % ต่อปี  ไผ่มีความได้เปรียบเหนือไม้โตเร็วในแง่ของความยั่งยืนและความสามารถในการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์  ผลผลิตชีวมวลของป่าไผ่อายุ  6 ปีสูงถึง 150 ตันคาร์บอนต่อเฮกแตร์ เปรียบเทียบได้กับไม้สักอายุ 40 ปีมีผลผลิตชีวมวล 126 ตันคาร์บอนต่อเฮกแตร์ และภายใต้การจัดการที่เหมาะสม ไผ่จะให้ผลผลิตเซลลูโลสต่อหน่วยเนื้อที่สูงกว่าไม้สน 3-6 เท่า 

           นอกจากนี้ ไผ่ยังเป็นไม้เบิกนำที่สามารถขึ้นได้บนพื้นที่ว่างเปล่า จึงสามารถช่วยปรับปรุงสภาพของระบบนิเวศน์ ในบริเวณป่าเสื่อมโทรมได้ในระยะเวลาอันสั้น จากระบบรากที่แผ่กว้าง และความหนาแน่นของเรือนยอด ทำให้ไผ่มีประสิทธิภาพสูงในการอนุรักษ์ดินและน้ำ ช่วยป้องกันการชะล้างและการกัดเซาะพังทลายของหน้าดินได้ดี โดยเฉพาะบริเวณริมร่องเขา คลองหรือริมตลิ่ง และยังช่วยปรับปรุงคุณภาพของดินให้ดีขึ้น  อันเป็นที่มาของชื่อ  “ดินขุยไผ่”

           ปัจจุบัน เส้นใยจากไผ่เป็นวัตถุดิบที่เป็นที่ต้องการสูงในอุตสาหกรรมสิ่งทอ  เนื่องจากเส้นใยไผ่นั้น มีคุณสมบัติพิเศษที่เหมาะกับการนำมาถักทอเป็นเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มระดับคุณภาพ มีความนุ่มเหมือนไหม ทนทาน ยืดหยุ่น  โปร่ง และซึมซับความชื้นได้มากกว่าผ้าฝ้าย ทำให้สวมใส่สบาย สามารถดูดซับรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต (UV)   ป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้ดี และที่สำคัญมีสารกำจัดกลิ่นอยู่ในตัว ทำให้เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยไผ่ไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็น

           ส่วนประโยชน์ด้านไม้ก่อสร้างหรือเฟอร์นิเจอร์นั้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้การป้องกันมอดอย่างได้ผล ทำให้มีการใช้ประโยชน์ด้านไม้ก่อสร้างมากขึ้น



วิธีปลูกไผ่ตงลืมแล้ง


           ไผ่ตงลืมแล้งเจริญเติบโตได้ดีกับดินทุกประเภท ไม่ว่าจะอยู่ภาคไหนของประเทศไทยก็สามารถปลูกไผ่ตงลืมแล้งได้ทั้งนั้น การขยายพันธุ์ไผ่ตงลืมแล้งใช้ลำต้น แรกเริ่มให้เกษตรกรซื้อต้นไผ่ตงลืมแล้งมาปลูก ต้นทุนครั้งแรกอยู่ที่ประมาณ 50 บาทต่อต้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างจะแพงเมื่อเทียบกับไผ่ชนิดอื่น ให้เกษตรกรซื้อมาแต่น้อย เพราะไผ่ตงลืมแล้งเจริญเติบโตเร็ว เราสามารถขยายพันธุ์ได้เอง โดยการตัดปักชำกิ่งไผ่ เมื่อเวลาผ่านไป 6-8 เดือนต้นไผ่พันธุ์ที่ซื้อมาจะเริ่มแตกให้เราตัดกิ่งไผ่ที่มีลักษณะไม่อ่อนไม่แก่ มาปักชำ ซึ่งถ้าเราจะขายกิ่งปักชำเหล่านี้ก็ย่อมได้ มีตลาดรับซื้อ และกำลังเป็นที่ต้องการของเกษตรกร บางคนก็มุ่งเป้าขายกิ่งพันธุ์อย่างเดียวเลย เพราะกำลังเป็นกระแส ใคร ๆ ก็อยากปลูก ปักชำ 2-3 เดือนก็ออกราก จำหน่ายได้แล้ว ต้นพันธุ์ 1 ต้นสามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้เป็นร้อย มีแต่คุ้มกับคุ้ม



กล้าไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ
กล้าไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ



วิธีการเตรียมปลูกและการดูแล


           1. ไผ่ชอบดินร่วนซุย ดินโปร่งและร่วนซุยจะทำให้รากเจริญเติบโตดี ไผ่ตงลืมแล้ง จะตั้งกอเร็ว เจริญเติบโตได้เต็มที่ ถ้าที่ดินของท่านเป็นดินแข็งแน่น ให้ไถกลบด้วยเศษใบไม้แห้งจะทำให้ดินร่วนซุยมากยิ่งขึ้น ช่วงเวลาเตรียมดินต้องมีเวลาให้ใบไม้ย่อยสลายสัก 1 เดือน แล้วจึงขุดหลุมปลูก หลุมปลูกเว้นระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 1 เมตร หลุมลึกประมาณ 0.5 เมตร

           2. ไผ่ตงลืมแล้ง ไม่ต้องการน้ำมาก ช่วงแรกที่ปลูกให้น้ำ 1 วันครั้ง เมื่อรากลงดินและเริ่มแตกหน่อให้ลดเหลือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

           3. เมื่อผ่านไปประมาณ 6 เดือนสามารถเก็บหน่อได้ ให้เก็บหน่อก่อนหน่อมีความยาว 40 เซนติเมตร เพราะถ้าเก็บหลังจากนี้หน่อไผ่ตงลืมแล้งจะแข็ง มีเสี้ยน ราคาจะตกลง ในระหว่างนี้อย่าให้หน่อเจริญเติบโตเป็นลำไผ่เป็นอันขาด เพราะมันจะไปแย่งอาหารหน่อไม้จนหมด ทำให้หน่อไม้แกนไม่มีรสหวาน ให้ปล่อยไว้เพียง 2-3 ลำเท่านั้นพอ



หน่อไผ่ตงลืมแล้งที่ตัดได้
หน่อไผ่ตงลืมแล้งที่ตัดได้



ด้านการอนุรักษ์ดิน และน้ำ


            ไผ่ตงลืมแล้งสามารถอุ้มน้ำและความชื้นไว้ได้มากกว่าป่าธรรมชาติถึง 2 เท่าส่วนการใช้ประโยชน์อื่นๆ เช่น ถ่านไม้ไผ่คุณภาพสูงที่ได้จากการเผาที่อุณหภูมิ 1,000 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ความสามารถสูงในการดูดซับกลิ่น ความชื้น สารพิษ สารเคมีช่วยฟอกอากาศ กำจัดแบคทีเรีย ช่วยปลดปล่อยประจุลบ และ อินฟราเรดคลื่นยาว ช่วยดูดซับรังสี ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น มีผลให้จิตใจแจ่มใส เบิกบาน ผงคาร์บอนที่ผลิตได้จากถ่านไม้ไผ่เมื่อนำมาผสมกับดิน นอกจากจะช่วยปรับปรุงบำรุงดินแล้ว ยังมีความสามารถในการดูดซับไนตรัสออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่ไปทำลายชั้นโอโซนที่เป็นเกราะป้องกันรังสีอุลตร้า-ไวโอเล็ตของโลกมากที่สุดอีกด้วย นอกจากนี้ถ่านไม้ไผ่ยังถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบในอุตสาหกรรมต่างๆอีกมากมาย เช่น อุตสาหกรรมยาและเครื่องสำอาง ใช้ทำไส้กรองน้ำ ไส้กรองอากาศ  ใช้ปรับปรุงบำรุงดิน และใช้ในการบำบัดน้ำเสีย  เป็นต้น




ด้านพลังงาน


           มีการวิจัยในต่างประเทศพบว่า ไผ่เป็นพืชที่มีศักยภาพสูงในด้านพลังงาน โดยสามารถนำมาผลิตเชื้อเพลิงอัดเม็ดที่มีค่าพลังงานความร้อนสูงมากมีการใช้แพร่หลายในประเทศที่มีโอกาสหนาวตลอดทั้งปี และมีการใช้ไผ่เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันดีเซลด้วยเทคโนโลยี Fast Pyrolysis แม้ว่ายังไม่แพร่หลายและยังไม่มีการผลิต

ข้อมูลดีดีจาก มูลนิธิสร้างสุขชุมชน




ทนัญชัย อริยเกศมงคล
สวนไผ่อริยะ@ระยอง
Line : tapootom
Tel : 086-3572098
https://www.facebook.com/ariyabamboo
http://ไผ่ตงลืมแล้ง.blogspot.com
E-mail : tapoo.tom@gmail.com






วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มาเพิ่มมูลค่าให้หน่อไผ่ตงลืมแล้งของเราดีกว่า...

แปรรูปหน่อไม้ไผ่ตงลืมแล้งเพื่อให้ได้ราคามากขึ้น


           ในช่วงหน้าฝนที่ไผ่ทุกชนิดทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นไผ่ป่าหรือไผ่บ้านต่างก้อผลิตหน่อไม้ออกมาอย่างเต็มกำลังซึ่งส่งผลให้หน่อไม้ในท้องตลาดนั้นมีมากมายเหลือเกินทำให้ราคาหน่อไม้ถูกลงมาก วันนี้ผมจึงจะขอนำวิธีการแปรรูปหน่อไม้ในแบบต่างๆมาให้ท่านๆได้รู้กันครับ

มาเริ่มอย่างแรกกับการทำหน่อไม้ดอง(หน่อไผ่ตงลืมแล้งก้อทำได้ครับ)

           หน่อไม้ดองนั้นถือว่าเป็น อาหารอีกอย่างหนึ่งที่คนไทยนิยมรับประทานและนิยมนำมาประกอบอาหาร เพราะสามารถประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น ต้ม ผัด แกง นึ่ง ซุป ฯลฯ ถึงหน่อไม้จะไม่มีคุณค่าทางอาหารมากนัก แต่คนก็นิยมรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นหน่อไม้สด หน่อไหมถุง หน่อไม้ดอง หน้อไม้อัดปีป ล้วนแต่ เพรามีรสชาติที่อร่อย ทานกับน้ำพริกแซบถึงใจ และสามารถหาได้ง่ายในฤดูฝน หน่อไม้จะขึ้นเองตามธรรมชาติจะแตกหน่อเพื่อที่จะเป็นลำต้นไผ่ต่อไป หน้อไม้ก็มีหลากหลายชนิดตามลักษณะภูมิประเทศ ของประเทศไทยเองก็ แตกต่างกันตามภูมิภาค หน่อไม้ที่พบได้ในประเทศไทย หน่อไม้บง หน่อไม้ไผ่ตงลืมแล้ง หน่อไม่ไผ่กิมซุง หน่อไม่ไผ่หวาน หน่อไม้ลวก หน่อไม้คาย หน่อไม้หก หน่อไม้บั้ม หน่อไม้ซาง และหน่อไม้อื่นๆ หน่อไม้จะแตกหน่อ เพื่อขยายพันธุ์ และปัจจุบันมีการปลูกหน่อไม้ไว้รับประทานเองแทนที่จะไปหาตามแนวป่า อีกด้วย ซึ่งหากนอกฤดูฝนหรือฤดูที่หน่อไม้จะแตกหน่อแล้ว เราไม่สามารถหามารับประทานได้ นอกจากการ ทำหน่อไม้ดองเอาไว้รับประทานนอกฤดู และเป็นการถนอมอาหาร เอาเก็บไว้รับประทานได้นานๆอีกด้วย วันนี้จะมาแนะนำวิธีการทำหน่อไม้ดอง หน่ออัดถุง หน่อไม้ส้ม ให้นำเอาไปปฏิบัติได้ครับ

วิธีทำหน่อไม้ดอง

หน่อไม้ดองจากหน่อไผ่ตงลืมแล้ง
หน่อไม้ดองจากหน่อไผ่ตงลืมแล้ง

ส่วนผสมในการทำหน่อไม้ดอง

1. หน่อไม้สดสะอาด 10 กิโลกรัม
หน่อไผ่ตงลืมแล้งสด 10 กิโลกรัม
หน่อไผ่ตงลืมแล้งสด 10 กิโลกรัม
2. เกลือเม็ด 1 กิโลกรัม
เกลือเม็ด 1 กิโลกรัม

3. แป้งข้าวเจ้า 1/2 กิโลกรัม


วิธีทำหน่อไม้ดอง

           - นำหน่อไม้ที่เราเตรียมเอาไว้ มาปอกเปลือก และล้างให้สะอาด
           - หลังจากนั้นให้สับหรือหั่นหน่อไม้บางๆ หรือสับให้เป็นเส้นๆ
           - เมื่อเตรียมหน่อไม้เรียบร้อยแล้ว ให้เรานำหน่อไม้ไปแช่น้ำสะอาดในภาชนะที่สะอาดเช่นกันและทำการปิดฝาให้มิดชิดกันแมลงหรือสิ่งแปลกปลอมตกลงไป แล้วทิ้งไว้ 1 คืน
           - เมื่อแช่นน่อไม้เอาไว้ได้ 1 คืนแล้ว ให้ตักขึ้นมาให้สะเด็จน้ำ
           - ให้นำเกลือเม็ด มาละลายกับน้ำต่างหากเตรียมเอาไว้
           - นำหน่อไม้มาที่สะเด็จน้ำแล้วมาเคล้ากับแป้งให้ทั่ว แล้วอัดลงในปิ๊บให้เต็ม เสร็จแล้วเทน้ำเกลือที่เตรียมไว้ ลงไปให้ท่วมหน่อไม้ เคล็ดลับ ใส่น้ำส้มสายชูลงไปด้วย เพื่อให้หน่อไม้ขาวสวยน่ากินเสร็จแล้วปิดให้มิดชิด หมักเอาไว้ 2 อาทิตย์ก็จะได้หน่อไม้ดองแล้วครับ




วิธีการทำหน่อไม้อัดถุง

ส่วนผสมในการทำหน่อไม้อัดถุง

1.หน่อไม้ดิบสด
2.ถุงพลาสติก
3.ยางรัด

วิธีการทำหน่อไม้อัดถุง

           -นำหน่อไม่ดิบที่เราเตียมไว้ มาแกะเปลือกออกตัดส่วนที่แข็งออกแล้วล้างให้สะอาด
           -ใช้มีดผ่าหน่อไม้ดิบออกเป็นสี่ส่วน หรือหน่อไม้ที่มีขนาดเล็กแค่แกะเปลือก เสร็จแล้วนำบรรจุถุงพลาสติกใบเล็กหรือใบใหญ่ตามต้องการได้เลย
           -จากนั้นให้เรานำหน่อไม้ที่เราบรรจุถุงพราสติกเรียบร้อยแล้ว นำไปนึ่งจนหน่อไม้สุก
           - ต่อไปให้นำหน่อไม้ที่สุกแล้วมาใส่ภุงพราสติกหุ้มด้านนอกอีกชั้นหนึ่งรัดปากถุงด้วยยางรัดให้แน่น เพื่อไม่ให้อากาศเข้า หากมีอากาศเข้าไปในถุงได้จะทำให้หน่อไม้เน่าเสียได้  รัดยางให้แน่น แล้วนำไปเก็บไว้

           วิธีการเก็บคือ มัดแขวนใส่กับราวไม้เอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนกับหน่อไม้ เพราะอาจจะทำให้หน่อไม้เน่าเสียได้เช่นกัน วิธีแขวนถ้าท่านต้องการจะนำมารับประทาน นำมาต้มหนือนึ่งอีกครั้ง หากแกะถุงหน่อไม้มาประกอบอาหารแล้วควรทำให้หมดถุงไม่ควรเก็บไว้เพราะจะเก็บไว้จะทำให้เน่าเสียได้



วิธีการทำหน่อไม้ส้ม

ส่วนผสมในการทำหน่อไม้ส้ม

1. หน่อไม้สด สะอาด
2. เกลือ 1 ทัพพี
3. น้ำสะอาด


วิธีทำหน่อไม้ส้ม

           - นำหน่อไม้ที่เตรียมเอาไว้มาปอกเปลือกออกและล้างน้ำให้สะอาดที่สุด
           -  นำหน่อไม้ที่ล้างสะอาดมาสับหน่อไม้ให้เป็นชิ้นบางๆ พยายามอย่าให้ฝอยมาก
           - เติมน้ำสะอาดใส่หน่อไม้พอท่วมหน่อไม้ทิ้งเอาไว้ 1 คืน
           - เมื่อครบ1คืนแล้ว ให้เทน้ำออกให้หมด
           - นำเกลือที่เราเตรียมไว้ มาเทลงไปคนให้เข้ากันกับหน่อไม้ ขยำให้เข้ากันให้ดี
           - เติมน้ำสะอาดพอท่วมหน่อไม้ ทิ้งไว้อีก 3 คืน จะได้หน่อไม้ดองสำหรับประกอบอาหารแล้วครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับการแปรรูปหน่อไม่แบบง่ายๆของเราท่านสามารถนำสูตรเหล่านี้ไปใช้ได้เรยทันทีครับผม

ข้อมูลดีดีจาก เกษตร.com



ทนัญชัย อริยเกศมงคล
สวนไผ่อริยะ@ระยอง
Line : tapootom
Tel : 086-3572098
https://www.facebook.com/ariyabamboo
http://ไผ่ตงลืมแล้ง.blogspot.com
E-mail : tapoo.tom@gmail.com

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

สร้างรายได้ตลอดทั้งปีกับไผ่ตงลืมแล้ง

ไผ่ตงลืมแล้งพืชที่ปลูกง่าย ตายยาก โตเร็ว

กอของไผ่ตงลืมแล้ง
กอของไผ่ตงลืมแล้ง


            สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งอุปโภคและบริโภค เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงเกษตรกรชาวสวนนิยมนำมาปลูก โดยพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำสมบูรณ์จะได้เปรียบมากกว่า เพราะถ้าสามารถผลิตหน่อไผ่ให้ออกนอกฤดูได้ ไผ่ตงลืมแล้งจัดเป็นไม้ขนาดใหญ่มีเส้น ผ่าศูนย์กลางรอบลำต้นประมาณ 6-12 เซนติเมตรจัดอยู่ประเภทไผ่ไม่มีหนามทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ลำปล้องยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร หน่อมีน้ำหนักตั้งแต่ 1-3 กิโลกรัมหน่อรับประทานสดหรือแปรรูปก็ได้มีมากแทบทุกพื้นที่ เนื่องจากเป็นพืชที่ดูแลง่าย และไม่มีแมลงหรือโรคพืชรบกวนเหมือนพืชชนิดอื่นๆ ทั่วไป และที่สำคัญไผ่ตงลืมแล้งมีผลผลิตให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวไปจำหน่ายเป็นรายได้ตลอดทั้งปี มีตลาดรองรับทั้งในและนอกประเทศแต่มีเกษตรกรบางรายเพิ่มผลผลิตให้กับตัวเองด้วยการทำหน่อไม้หมก หรือตงหมก หรือตงหวานเป็นหน่อไม้ที่ตลาดต้องการมากราคาสูงกว่าหน่อไม้ไผ่ธรรมดามาก เนื่องจากรสชาติและคุณภาพของหน่อจะดีกว่า ลักษณะของหน่อไม้หมกจะเป็นหน่อที่อวบเนื้อขาวอ่อนนิ่มและหวานกรอบสามารถสังเกตความแตกต่างได้คือ สีของหน่อจะเป็นสีน้ำตาลอมเหลือง ส่วนหน่อไม้ธรรมดาหรือที่ไม่ได้หมกสีจะออกน้ำตาลดำมีนวล ฤดูที่เหมาะในการทำหน่อไม้หมกคือช่วงฤดูฝนประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงหน่อไม้เริ่มแทงหน่อ การทำหน่อไม้หมกคือการป้องกันไม่ให้หน่อไม้ถูกแสงแดด

ซึ่งมีวิธีที่นิยมทำกันหลักๆ 2 วิธีคือ


           1.ใช้ขี้เถ้าแกลบซึ่งในฤดูฝนช่วงที่หน่อไม้โผล่พ้นดินได้ ประมาณ 2-3 นิ้วให้เอาปี๊บก้นทะลุหรือเข่งทะลุใบเล็กๆ มาครอบหน่อแล้วเอาขี้เถา แกลบใส่ให้เต็มพอหน่อไม้ไผ่โตสูงพ้นปี๊บมาประมาณ 1 นิ้วก็เอาปี๊บและขี้เถาแกลบออกแล้วตัดหน่อได้เลย การหมกวิธีนี้มีข้อดีหลายประการเช่นตัดหน่อได้ง่ายหน่อไม่สกปรกและทำให้หน่อหวานเนื่องจากขี้เถ้าแกลบมีธาตุอาหารโปแตสเซียมอยู่ด้วย

ตัวอย่างการทำหน่อไม้ตงลืมแล้งหมก
ตัวอย่างการทำหน่อไม้ตงลืมแล้งหมก



ตัวอย่างการทำหน่อไม้ตงลืมแล้งหมก
ตัวอย่างการทำหน่อไม้ตงลืมแล้งหมก



           2.ในกรณีที่หาขี้เถ้าแกลบและปี๊บไม่ได้ก็สามารถใช้ดินบริเวณรอบๆ กอไผ่นำมาพอกปิดหน่อให้สูงประมาณ 1 ศอกพอหน่อพ้นดินที่พอกได้ประมาณ 1 นิ้วก็ทำการตัดหน่อออกจำหน่ายได้เลย การทำหน่อไผ่ตงหมกหรือหน่อไม้หวานโดยวิธีใช้ดินพอกมีข้อเสียคือ ทำให้เราไม่สามารถเลี้ยงลำแม่ที่แข็งแรงได้และสมบูรณ์ที่สุดได้เนื่องจาก เราขุดหน่อไปขายจนลืมนึกถึงลำแม่หรือบางทีนึกได้แต่ไม่ทราบตำแหน่งของหน่อที่ควรจะเป็นลำแม่เพราะถูกดินกลบไว้ฉะนั้นลำที่ปล่อยเป็นลำแม่อาจเป็นลำที่ไม่ดีพอรวม ทั้งการกำหนดระยะห่างและการเดินกอก็ทำได้ยากและเมื่อมีการพรวนดินขึ้นทุกปีแล้ว ไม่มีการเอาดินออกหรือเอาออกไม่หมดจะทำให้กอไผ่ลอยเป็นผลให้กอไผ่ทรุดโทรมได้เร็วและออกหน่อน้อยในปีต่อไป


           เกษตรกรที่ประสบความล้มเหลวมาในการปลูกไผ่ตงเมื่อครั้งอดีตนั้นส่วนมากใช้พันธุ์ไผ่ตงลืมแล้งที่ขยายพันธุ์ ต่อจากต้นที่มีอายุมาก เมื่อนำมาปลูกได้ไม่นานต้นไผ่ก็จะออกดอกและตายขุย ซึ่งแนวทางที่แก้ไขได้คือจะต้องขยายพันธุ์จากต้นที่มีอายุน้อยหรือต้นพันธุ์จากการเพาะเมล็ด ไผ่เป็นพืชที่มีอายุยืนอยู่ได้ถึง 80 ปี เมื่อเราขยายพันธุ์ด้วยการตอน หรือชำกิ่งต่อๆ กันมาเมื่อต้นแม่พันธุ์อายุได้ 80 ปี ไผ่ทุกต้นที่ได้จากการตอนกิ่งแม่ต้นนั้นอายุก็จะเท่ากับต้นแม่และจะตายขุยพร้อมกันถึงแม้ต้นนั้นจะปลูกไปได้ 1 ปี ก็ตายได้ ไม้ไผ่ตงลืมแล้งนี้เมื่อเติบโตเต็มที่ให้ผลผลิตสูงถึง 20-25 กก.ต่อกอมีตลาดรองรับตลอดทั้งปี


           เริ่มแรก เราก็เตรียมสถานที่ โดยมีการยกร่องสวนไว้เดิมแต่ก่อนหน้านั้นและมีน้ำสมบูรณ์ เราก็ไปติดต่อซื้อต้นกล้าไผ่ตงลืมแล้ง มาจากเกษตรกรที่เขาจำหน่ายต้นชำให้ ในราคาต้นละ 60 บาท จากนั้นนำต้นกล้ามาปลูกโดยเว้นระยะห่างต่อกอราว 3-5 เมตร แล้วใช้ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักโรยไปตามโคนต้น จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ได้เลย มีเพียงแค่ดูแลรดน้ำเป็นระยะเวลาประมาณ 8 เดือนถึง 1 ปี


การเว้นระยะต้นไผ่ตงลืมแล้ง
การเว้นระยะต้นไผ่ตงลืมแล้ง


           เมื่อไผ่ตงเจริญเติบโตขึ้น โดยส่วนใหญ่ก็จะแทงหน่อออกมาจำนวนมากน้อยก็อยู่ที่เราดูแล บำรุงรักษา แต่เมื่อแทงหน่อออกมามาก เราก็ต้องมีการตัดทิ้ง และไว้ลำต้นให้มีระยะห่างพอสมควร เพื่อให้มีช่องว่างในการที่จะแตกหน่อออกมาใหม่ ราว 1 ปี ก็จะได้ก่อไผ่ตงที่สมบูรณ์ สามารถเริ่มเก็บผลผลิตออกจำหน่ายได้แล้ว ส่วนเรื่องศัตรูพืชหรือโรคของไผ่ตงลืมแล้งนั้นแทบไม่มีเลย ดูแลรักษาง่าย จะมีบ้างก็เพียงหนูที่ชอบมากัดแทะทำลายหน่อไม้ แต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แล้วก็มีพวกแมลงประเภทที่ชอบเจาะหน่อและปล้องอ่อนเช่นด้วงงวงช้างรวมทั้งเพลี้ยแป้งที่ชอบเกาะอยู่ตามหน่ออ่อนหรือใบอ่อนเพื่ออาศัยดูดกินน้ำเลี้ยงอันจะทำให้ยอดใบหงิกและชะงักการเจริญเติบโตซึ่งเราก็ต้องนำสารเคมีมาฉีดพ่นที่ลำต้นและใบอ่อนเป็นบางครั้งและราดที่หน่อที่รากไผ่ตงจะให้ผลผลิตทั้งปี สามารถเก็บขายได้ทุกๆ 2-3 วัน ราคาก็อยู่ที่ ว่าช่วงไหนผลิตออกมามากราคาก็ถูก โดยเฉาะหน้าฝนซึ่งผลผลิตจะออกมามาก แต่ในช่วงหน้าแล้ง ผลผลิตออกมาน้อย ราคาก็จะสูงในราวๆ กิโลกรัมละ 30-45 บาท เก็บขายที เป็นตันๆ ก็สร้างรายได้ให้ดีมาก ตลาดหลักที่รับซื้อ ก็คือตลาดไทยและตลาดสี่มุมเมือง แต่ในช่วงหน้าฝนนั้นแม้ราคาจะถูกลง แต่ก็จะมีโรงงานต่างๆ มารับซื้อเพื่อนำไปอัดใส่ปี๊บหรือทำหน่อไม้กระป๋องส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศแถบเอเชีย เช่น สิงคโปร ฮ่องกง ไต้หวัน ที่นิยมบริโภคหน่อไม้จากเมืองไทย

ข้อมูลดีดีจาก 
www.banmuang.co.th
www.kasetporpeang.com




ทนัญชัย อริยเกศมงคล
สวนไผ่อริยะ@ระยอง
Line : tapootom
Tel : 086-3572098
https://www.facebook.com/ariyabamboo
http://ไผ่ตงลืมแล้ง.blogspot.com
E-mail : tapoo.tom@gmail.com

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

การส่งไผ่ตงลืมแล้งและพันธุ์ไม้อื่นทางไปรษณีย์

อยากส่งไผ่ตงลืมแล้งทางไปรษณีย์ทำไงดี

           หลายคนที่คิดอยากจะส่งไผ่ตงลืมแล้งหรือพันธุ์ไม้ต่างๆไปให้ญาติหรือลูกค้าของสวนเราทางไปรษณีย์คงจะมีความกังวนอยู่บ้างว่าหากเราทำการบรรจุกิ่งพันธุ์ไผ่ตงลืมแล้งหรือพันธุ์ไม้ต่างๆลงกล่องแล้วกล่องจะฉีกขาดหรือมีความเสียหายหรือไม่ วันนี้ผมเรยอยากเอาวิธีการบรรจุกิ่งไผ่ตงลืมแล้งเพื่อส่งไปรษณีย์มาฝากกันครับ

           เริ่มแรกเราจะต้องมาพิจารณาดูว่าสิ่งของที่เราจะส่งมีขนาดเท่าไหร่จะต้องใช้กล่องบรรจุขนาดไหนเพื่อทีจะได้ไม่เสียค่าส่งไปรษณีย์มากจนเกินไปนัก และเมื่อเราได้วัสดุที่จะใช้บรรจุไผ่ตงลืมแล้งหรือพันธุ์ไม้อื่นๆมาแล้วเราจะมาทำการบรรจุไผ่ตงลืมแล้งหรือพันธุ์ไม้ของเรากันผมจะอธิบายให้เข้าใจทีละขั้นเรยนะครับผม
การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

        เริ่มแรกเราก็ทำการจัดหาวัสดุเพื่อนำมาบรรจุกิ่งไผ่ตงลืมแล้งหรือกิ่งพันธุ์ไม้อื่นๆที่เราต้องการจะส่ง


การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง


การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

 หลังจากนั้นเราจะมาเตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติมกันได้แก่
           1.มีดคัตเตอร์ หรือกรรไกร
           2.เทปทีจะใช้ในการปิดกล่อง (ควรเลือกเทปที่มีความเหนียวพอสมควรถึงจะแพงหน่อยแต่ก็ดีกว่าของที่เราจะส่งเสียหายนะครับ)

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           เราจะมาทำการปิดด้านล่างของกล่องกันก่อนนะครับขอเน้นว่าด้านล่างของกล่องควรจะต้องทำให้มีความแข็งแรงมากที่สุดเพราะเป็นด้านที่จะต้องรับน้ำหนักทั้งหมดของพัสดุที่เราจะส่งครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           พับด้านล่างของกล่องตามที่เราต้องการจากนั้นให้นำเทปกาวมาติดตามด้านยาวโดยให้จุดเริ่มติดต่ำกว่าขอบของกล่องประมาณ 2 นิ้วครับเพื่อให้เทปกาวมีแรงยึดเกาะที่ดีขึ้น

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง
         
           ในการติดเทปกาวครั้งแรกนั้นจะต้องติดที่กึ่งกลางของกล่องระหว่างฝากล่องทั้งสองด้านหากเยื่องไปทางใดทางหนึ่งมากไปกล่องอาจจะหลุดและทำให้กิ่งพันธุ์ไผ่ตงลืมแล้งและพันธุ์ไม้อื่นๆเสียหายได้
การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           หลังจากติดเทปรอยแรกแล้วจะได้สภาพของกล่องตามรูปด้านบนครับแต่แค่นี้ยังไม่พอนะครับเพราะความแข็งแรงยังไม่ได้กล่องอาจจะขาดได้ครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           เราจึงต้องทำการติดเทปกาวซ้ำทั้งสองด้านตามรูปนะครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           ในการติดเทปเพื่อเพิ่มความแข็งแรงนั้นจะต้องติดให้เยื้องกับแนวกลางกล่องนิดหน่อยนะครับจะทำให้พื้นที่ในการยึดเกาะมีมากที่สุดครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           หลังจากนั้นก็ทำเหมือนกันอีกด้านของเทปกาวครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

            ติดซ้ำตรงแนวกลางอีกครับก็เรียบร้อยกับแนวตรงกลางครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           มาถึงแนวด้านข้างจะทำการติดเทปกาวคล้ายๆกับแนวกลางครับโดยจะต้องติดเทปกาวให้เหลือหัวท้ายประมาณด้านละ 2 นิ้วครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

            จากนั้นให้ปิดหัวท้ายทั้งด้านซ้ายและขวาก่อนเป็นอันดับแรก

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง
       
           แล้วเราก็ติดเทปตรงกลางให้หมด

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

            ก็จะเหลือด้านข้างลักษณะตามรูปครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง
       
           ให้เราดันเทปกาวที่เหลือปิดไปกับกล่องครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           หลังจากนั้นก็ให้ติดเทปด้านบนและด้านล่างของเทปกาวเหมือนกับแนวกลางในครั้งแรกครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง
   
            ปิดเทปแนวกลางอีกรอบ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           ติดเทปตามแนวขวางของกล่องเพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการรับน้ำหนักครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

           หลังจากนั้นก็สามารถนำกิ่งพันธุ์ไผ่ตงลืมแล้งหรือพันธุ์ไม้อื่นๆลงกล่องได้เรยครับ เมื่อบรรจุเสร็จแล้วก็ทำการปิดกล่องโดยทำในลักษณะเดียวกันกับที่ปิดด้านล่างของกล่องครับ

การแพ็คกิ่งไผ่ตงลืมแล้งสวนไผ่อริยะ@ระยอง

            เพียงเท่านี้เราก็สามารถส่งกิ่งพันธุ์ไผ่ตงลืมแล้งหรือกิ่งพันธุ์ไม้อื่นๆทางไปรษณีย์ได้แล้วครับ
ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านนะครับเพราะหากเราบรรจุไม่ดีก็จะเกิดความเสียหายแก่พัสดุซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายกับพัสดุของผู้อื่นอีกด้วย นั่นหมายถึงต้นทุนที่เราจะต้องเสียไปเฉยๆเพียงเพราะการบรรจุหีบห่อง่ายๆเหล่านี้นะครับ ขอบคุณครับ





ทนัญชัย อริยเกศมงคล
สวนไผ่อริยะ@ระยอง
Line : tapootom
Tel : 086-3572098
https://www.facebook.com/ariyabamboo
http://ไผ่ตงลืมแล้ง.blogspot.com
E-mail : tapoo.tom@gmail.com